เทคนิคดื่มชาเขียว

เทคนิคดื่มชาเขียวญี่ปุ่น ที่คุณห้ามพลาด!

ชาเขียวญี่ปุ่น เป็นเครื่องดื่มที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ไม่เพียงแต่มีรสชาติที่โดดเด่นและหอมละมุนเท่านั้น

greentea

 แต่ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายที่ดีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังไม่ทราบถึงเทคนิคดื่มชาเขียวที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากชาแต่ละประเภท บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเทคนิคดื่มชาเขียวญี่ปุ่นในแบบที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

รู้จัก ประเภทชาเขียวญี่ปุ่น ยอดนิยม

ก่อนจะเข้าใจเทคนิคดื่มชาเขียว ควรรู้จักประเภทชาเขียวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมกันก่อน เพื่อที่จะสามารถดื่มและสัมผัสรสชาติที่ดีที่สุดของชาแต่ละชนิดได้อย่างแท้จริง

  1. เซนฉะ (Sencha) ชาเขียวญี่ปุ่นชนิดนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด มีกลิ่นหอมสดชื่น รสชาตินุ่มละมุน มีระดับคาเฟอีนปานกลาง เหมาะสำหรับดื่มทุกวัน
  2. มัทฉะ (Matcha) ชาเขียวบดละเอียดที่นิยมนำไปชงในพิธีชงชา มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดในกลุ่มชาเขียวญี่ปุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพอย่างจริงจัง
  3. เกียวคุโระ (Gyokuro) ชาเขียวชั้นสูงที่มีรสชาติหวานนุ่ม กลิ่นหอมละมุนมากที่สุด เก็บเกี่ยวโดยใช้ใบอ่อนที่ได้รับการบังแสงก่อนเก็บเกี่ยว
  4. โฮจิฉะ (Hojicha) ชาเขียวคั่วที่มีสีออกน้ำตาล กลิ่นหอมจากการคั่ว ให้รสชาติที่เข้มข้นและช่วยให้ผ่อนคลาย เหมาะกับการดื่มในช่วงเย็น

เทคนิคดื่มชาเขียวญี่ปุ่น ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

  1. อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม ชาเขียวญี่ปุ่นแต่ละประเภทต้องใช้อุณหภูมิน้ำที่แตกต่างกัน เซนฉะควรใช้น้ำประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส ในขณะที่มัทฉะและเกียวคุโระควรใช้น้ำอุ่นประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้รสชาติขมและฝาดเกินไป
  2. เวลาการแช่ใบชา เวลาในการแช่ใบชามีผลต่อรสชาติและกลิ่นหอมของชาอย่างมาก เซนฉะและเกียวคุโระควรแช่ใบชาไม่เกิน 2 นาที ส่วนชาโฮจิฉะและมัทฉะควรแช่หรือคนชาไม่เกิน 1 นาที เพื่อป้องกันรสชาติที่ขมเกินไป
  3. ดื่มชาในเวลาเหมาะสม ดื่มชาเขียวในช่วงเช้าช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและกระตุ้นการทำงานของสมอง ส่วนการดื่มชาเขียวหลังอาหารช่วยเรื่องระบบย่อยอาหารและลดไขมันในร่างกาย สำหรับคนที่ไวต่อคาเฟอีน และมีปัญหาการนอน ควรดื่มก่อน 15.00 น. หรือสังเกตการตอบสนองของร่างกายตนเอง
  4. ไม่เติมน้ำตาลหรือสารปรุงแต่ง เพื่อให้ได้รสชาติแท้จริงของชาเขียวญี่ปุ่นและรับประโยชน์จากสารอาหารอย่างเต็มที่ ควรดื่มชาเขียวแบบไม่เติมน้ำตาล นม หรือสารปรุงแต่งใด ๆ
  5. เก็บชาเขียวให้ถูกวิธี ชาเขียวญี่ปุ่นไวต่อแสง ความร้อน และความชื้น ควรเก็บในภาชนะทึบแสง ปิดสนิท และเก็บในที่แห้ง เย็น เพื่อคงคุณภาพของใบชา

สัมผัส ชาเขียวญี่ปุ่น Kabusecha รสอูมามิ จากเมืองอูจิ โตเกียว (Uji, Kyoto) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ที่หมอแบงค์ คัดมาให้กับทุกคนจาก tea master ตัวเป็นๆ

อุดมด้วย
  • Catechin ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอวัยและช่วยระบบเผาผลาญ
  • L-theanine ผ่อนคลายความเครียด

1 ซอง (100 g.) เพียง 490 บาท (จากราคาปกติ 790 บาท) รวมค่าส่ง

ชงได้มากถึง 16-20 ครั้ง (1 ครั้ง เพียง 5-6 กรัม เสิร์ฟได้ถึง 2-3 น้ำ)

เต็มอรรถรสชาเขียว ได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น

วิธีชงชาเขียวอูมามิ แบบร้อน

วิธีชงชาเขียวอูมามิ แบบเย็น

สรุป

ชาเขียวญี่ปุ่นไม่ได้มีดีแค่กลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังอุดมด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เพียงแค่คุณดื่มชาเขียวด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะทำให้คุณได้รับคุณประโยชน์และสัมผัสประสบการณ์การดื่มชาเขียวที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง