Intermittent fasting

ไขความลับ การทำ IF ? IF ลดน้ำหนักได้จริงไหม? ทำไมต้องทำ IF?

ปัจจุบันการทำ IF หรือ Intermittent Fasting ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้รักสุขภาพและผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงสงสัยว่า IF คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม และ IF มีกี่แบบ บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดถึงวิธีการทำ IF ประโยชน์ที่ได้รับ และตอบข้อสงสัยต่างๆ เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

IF คืออะไร?

Intermittent Fasting

IF หรือ Intermittent Fasting คือ การอดอาหารเป็นช่วงเวลาโดยมีการกำหนดช่วงเวลารับประทานอาหารสลับกับช่วงเวลาอดอาหาร ซึ่งจะแตกต่างจากการลดน้ำหนักโดยทั่วไปที่เน้นการลดปริมาณอาหารหรือแคลอรี่เท่านั้น หลักการของ IF คือการกำหนดช่วงเวลาในการกินและอดอย่างชัดเจน ช่วยให้ร่างกายมีเวลาในการเผาผลาญไขมันสะสม ลดระดับอินซูลิน และช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย

IF มีกี่แบบ?

Intermittent Fasting

การทำ IF มีหลายรูปแบบ ซึ่งคุณสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความสะดวกของตัวเองได้

  1. 16/8 (Leangains Method)
    • รูปแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด โดยจะอดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมง และรับประทานอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง
  2. 5:2 (Fast Diet)
    • รับประทานอาหารตามปกติ 5 วัน และอีก 2 วันที่เหลือจะจำกัดการบริโภคอาหารให้อยู่ที่ประมาณ 500-600 แคลอรี่
  3. Eat-Stop-Eat
    • รูปแบบนี้จะเป็นการอดอาหารเต็ม 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และรับประทานอาหารปกติในวันอื่น
  4. Alternate-Day Fasting (ADF)
    • การอดอาหารทุกวันเว้นวัน หรือจำกัดแคลอรี่อย่างมากในวันที่อด
  5. Warrior Diet
    • รับประทานอาหารน้อยหรือไม่ทานเลยในช่วง 20 ชั่วโมง และรับประทานอาหารในช่วง 4 ชั่วโมงสุดท้ายของวัน

IF ลดน้ำหนัก ได้จริงไหม?

งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าการทำ IF สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง โดยเฉพาะเมื่อปฏิบัติอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ การทำ IF ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมัน และลดปริมาณไขมันในช่องท้อง นอกจากนี้ IF ยังมีส่วนช่วยในการรักษากล้ามเนื้อ ทำให้น้ำหนักที่ลดได้เป็นไขมันเป็นหลัก และไม่สูญเสียกล้ามเนื้อ

ทำไมต้องทำ IF? ประโยชน์ของการทำ IF

นอกจากเรื่องการลดน้ำหนัก IF ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ได้แก่:

  1. ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง
  2. ชะลอวัยและฟื้นฟูเซลล์
    • กระตุ้นกระบวนการ Autophagy หรือการฟื้นฟูเซลล์ ทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น
  3. ปรับสมดุลฮอร์โมน
    • ช่วยให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีความสมดุล โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำหนัก
  4. เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
    • ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ประสาทใหม่ๆ และลดอาการอักเสบในสมอง

ข้อควรระวังในการทำ IF

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่ม IF
  • ควรเลือกวิธี IF ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และไม่ทำให้รู้สึกเครียดหรือกดดัน
  • รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนในช่วงที่สามารถกินได้
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการอดอาหารอย่างหักโหมเกินไป

แนะนำเทคนิคการทำ IF ที่เหมาะกับคุณ โดย หมอแบงค์ Food Doctor

สรุป

การทำ IF หรือ Intermittent Fasting คือการอดอาหารเป็นช่วงเวลาอย่างมีแบบแผน ช่วยลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินได้จริง รวมถึงมีประโยชน์มากมายในการเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม การเข้าใจว่า IF มีกี่แบบ และเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเองจะช่วยให้ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน