น้ำตาลสูง อาการอย่างไร รู้ทันก่อนอันตราย!
ภาวะเบาหวาน เกิดจากน้ำตาลค้างในเลือด เนื่องจากเซลล์ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้ตามปกติ
ประเภทของเบาหวาน
- เบาหวานชนิดที่ 1: ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ จำเป็นต้องฉีดอินซูลิน
- เบาหวานชนิดที่ 2: ตับอ่อนผลิตอินซูลินได้ แต่ร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้มีน้ำตาลค้างในเลือด
ค่าน้ำตาลที่บ่งบอกถึงเบาหวาน
- FBS (ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร) มากกว่า 126 mg/dL
- HbA1C มากกว่า 6.5%
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่แม่นยำที่สุด คือ การเจาะเลือดตอนเช้าหลังจากงดอาหารมาแล้ว 8-10 ชั่วโมง
5 อาการน้ำตาลสูงที่ต้องระวัง
- ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
- ปากแห้งผิดปกติ
- กระหายน้ำตลอดเวลา ดื่มเท่าไรก็ไม่หาย
- รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย
- มีปัญหาสายตาพร่ามัว
หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 250 mg/dL และมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
คำแนะนำเบื้องต้นในการดูแลภาวะเบาหวาน
- ทานอาหารต้นทาง (อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูปมากนัก เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช)
- หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารสีแดง (เนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ)
- ทานอาหารเป็นมื้อ ไม่ทานจุบจิบ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับต้นเหตุของโรคเบาหวานอีกมาก เช่น ทานข้าวหรือผลไม้แล้วทำให้เป็นเบาหวาน หรือ ต้องทานโปรตีนมาก จะทำให้หายเบาหวาน เป็นต้น
หากคุณเป็นคนนึงที่ยังสับสนกับความรู้ด้านโภชนาการ “คอร์สเรียนอาหารต้นทาง” จะช่วยตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องอาหารทั้งหมด
สิ่งที่คุณจะได้รับ คือ
- คลิปวีดีโอ 24 บทเรียน ในเฟสบุ๊คกลุ่มส่วนตัว
- แบ่งปัน ตัวอย่างเมนูอาหารของนักเรียนในกลุ่มที่ประสบความสำเร็จ
- โบนัส บทเรียน ที่นอกเหนือจากลดน้ำหนัก เช่น สารพิษอันตรายรอบตัว ศาสตร์อาหารเสริมที่คนเข้าใจผิด เป็นต้น
- ถาม-ตอบ กับ คุณหมอในกลุ่มเรียนได้ตลอดชีพ
รับฟังข้อมูล ภาวะน้ำตาลสูง จากหมอแบงค์ Food doctor ได้ที่คลิปนี้
สรุป: น้ำตาลในเลือดสูงไม่ใช่เรื่องเล็ก ควรสังเกตและดูแลตนเองอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันภาวะอันตรายจากระดับน้ำตาลสูงที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นๆ ตามมา
